วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ม้าม มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับอะไร

ม้ามคืออะไร
ม้ามเป็นอวัยวะอยู่ในช่องท้องด้านซ้ายส่วนบน ปรกติจะมีชายโครงบังอยู่คลำไม่ได้ภายในม้ามมีช่องทางที่ซับซ้อนคดเคี้ยวซึ่งเลือดต้องไหลเวียนผ่านเข้าไป 

หน้าที่ของม้าม
แม้ว่าม้ามจะมีขนาดเล็กแต่มีหน้าที่สำคัญเพราะเป็นที่ดักจับกำจัดเชื้อโรคเป็นที่กำจัดเม็ดเลือดแดง แก่ๆ ที่กำลังจะตายตามอายุขัย และทำลายเม็ดเลือดที่มีรูปร่างผิดปรกติ เช่น เม็ดเลือดแดงป่องกลม (ในโรคเม็ดเลือดแดงป่องกลมพันธุกรรม เม็ดเลือดแดงรูปร่างแปลกๆ ที่พบในโรคธาลัสซีเมียเป็นต้น ในโรคธาลัสซีเมียเม็ดเลือดแดงจะมีอายุสั้น แตกเร็วกว่าเม็ดเลือดแดงปรกติมาก


ม้าม (spleen) เป็นอวัยวะในร่างกายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีรูปทรงเรียวรี คล้ายเมล็ดถั่ว เป็นอวัยวะที่ขจัดเชื้อโรคและเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ตายแล้ว
ออกจากกระแสเลือด ม้ามจะอยู่บริเวณช่องท้องส่วนบน ใต้กะบังลมทางซ้าย และอยู่ใกล้กับตับอ่อน และไตซ้าย ถูกยึดติดไว้กับเยื่อบุช่องท้อง 
ม้ามมีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยในวัยผู้ใหญ่ ม้ามจะมีความยาวประมาณ 13 เซนติเมตร (ประมาณ 5 นิ้ว) และจะมีความกว้าง
ประมาณ 10 เซนติเมตร (4 นิ้ว) และหนาประมาณ 3.8 เซนติเมตร (1.5 นิ้ว) และมีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม (7 ออนซ์) หลอดเลือดที่เข้าสู่ม้ามคือ 
หลอดเลือดสเปลนิกอาร์เตอร์รี่ (splenic artery) และเลือดจากม้ามจะไหลเข้าสู่ตับ

สรีรวิทยาของม้าม
ม้ามทำหน้าที่ในการดึงเอาธาตุเหล็กจากฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง นำมาใช้ในร่างกาย และยังทำหน้าที่เอาของเสียออกจากกระแสเลือด
ในรูปของน้ำปัสสาวะเช่นเดียวกับที่ตับ ม้ามสร้างแอนตีบอดี ในการต่อต้านเชื้อโรค และยังผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่ได้ด้วย 
ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด (ยกเว้นมนุษย์) ม้ามจะทำหน้าที่เก็บเซลล์เม็ดเลือดแดง และส่งไปยังกระแสเลือด เพื่อควบคุมปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดง 
ในกรณีที่เสียเลือดมาก ในทารกที่ยังไม่คลอด ม้ามมีหน้าที่หลักในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และหลังจากคลอด หน้าที่นี้จะเป็นหน้าที่ของไขกระดูกแทน 
แต่ถ้าไขกระดูกทำงานได้น้อยลงเนื่องจากโรคบางอย่าง ม้ามจะทำหน้าที่ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกครั้งหนึ่ง

โรคของม้าม
อาการหลายชนิดมีผลต่อม้าม เช่น Splenomegaly (อาการม้ามโตผิดปกติ) อาการนี้เป็นอาการที่บอกถึงการมีแบคทีเรีย ปรสิต หรือไวรัสติดเชื้อในร่างกาย 
เช่น เชื้อวัณโรค เชื้อมาลาเรีย ข้อต่ออักเสบ ฯลฯ โรคนี้ยังอาจเกิดจากโรคตับแข็งได้, Hypersplenism (อาการม้ามทำงานผิดปกติหรือทำงานมากเกินปกติ) 
โรคนี้ทำให้การกำจัดเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางแทรกซ้อนขึ้นมา นอกจากนี้ ภาวะม้ามเลือดออกอาจชี้ถึงภาวะโลหิตจาง 
และการขาดธาตุเหล็กอีกด้วย และมะเร็งในม้าม

อาการม้ามผิดปกติต่างๆ อาจรักษาโดยการฉายรังสี หรือใช้ยาคอร์ริโคสเตียรอยด์ หรือบางโรคที่ร้ายแรงก็จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนม้าม 
ในกรณีที่ม้ามเกิดการแตกหรือฉีกขาด จะทำให้เชื้อโรคในม้ามไหลกลับเข้าสู่กระแสเลือดเกือบทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุทำให้ผู้ที่ม้ามแตกหรือฉีกขาดจากอุบัติเหตุเสียชีวิต

ในปัจจุบัน ยังไม่มีม้ามเทียมที่สามารถเปลี่ยนทดแทนเมื่อม้ามในร่างกายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น